การประยุกต์ใช้GIS กับreal estate

1.นักประเมินอสังหาฯ สามารถใช้ GIS ประเมินว่าตำแหน่งที่ตั้งมีผล

ต่อราคาอย่างไร

2. นายหน้าอสังหาฯ ใช้ GIS ในการจำแนกและสืบค้นข้อมูลการซื้อขาย การ

เช่า ราคา และรูปแบบของการครอบครองได้

3.นักพัฒนาสามารถใช้ GIS ในการวิเคราะห์รูปแบบการเจริญเติบโตของเมือง

เพื่อจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่ที่จะพัฒนาในอนาคต หรือเพื่อศึกษาใน

แนวทางการจัดการจราจร หรือด้านสิ่งแวดล้อม

4. นักลงทุนใช้ GIS ในการติดตามประสิทธิผลของ property ในเมือง

5. ผู้ปล่อยกู้ใช้ GIS ในการติดตามหนี้เก่า ช่วยในการรับประกันเงินกู้รอบใหม่

6. นักวิเคราะห์ตลาดใช้ GIS ในการวิเคราะห์ข้อมูลประชากร เพื่อระบุพื้นที่การ

ค้าที่เป็นไปได้ และใช้ในการประเมินรูปแบบการแข่งขันในเชิงพื้นที่

7. นายหน้าซื้อขายที่อยู่อาศัย ใช้ GIS ในการเปรียบเทียบราคาของบ้านจาก

บ้านโดยรอบหรือพื้นที่ข้างเคียง

8. นักวิเคราะห์สาขาร้านค้าปลีกใช้ GIS ในการหาที่ตั้งของร้านใหม่ หรือใช้ในการประเมินหาประสิทธิภาพของการกระจายของสินค้า

หมายเหตุ/// สิ่งที่ได้เรียน/ความรู้จากในห้องเรียน ในรายวิชา ภูมิศาสตร์การเคหะและอสังหาริมทรัพย์

Land and property

"land" ในเชิงเศรษฐศาสตร์คือปัจจัยในการผลิต

ปรระโยชน์ของ"land"เช่นใช้ในการปลูกพืช การทำปศุสัตว์ หรือใช้ในการทำ
เหมืองแร่ หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลง ให้กลายเป็นอาคารเพื่อการอยู่
อาศัย อุตสาหกรรม การค้าขาย การบริการ

 property และ real estate หมายถึงการรวมกันของ land และ

building ในพื้นที่หนึ่ง


*** Property or Real Estate = LAND + BUILDING
วัน



ปล/// ความรู้ในห้องเรียน ในรายวิชาภูมิศาสตร์การเคหะเเละอสังหาริมทรัพย์

ปัจจัย 3 ระดับที่มีอิทธิพลต่อราคาที่ดิน

ปัจจัยที่มีความสำคัญที่มีผลกระทบต่อราคาที่ดินมากที่สุด

•ถนน

•ไฟฟ้า

•ประปา

•ใกล้ตลาด

• สภาพน้ำท่วม รวมไปถึงเส้น

ทางไปถึงที่ดินด้วย

•การใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่ดินที่

ใช้ในวัตถุประสงค์แตกต่าง

มูลค่าจะแตกต่างกันไป

•มีโครงการที่จะพัฒนาพื้นที่

•ปัจจัยที่มีความสำคัญที่มีผลกระทบต่อราคาที่ดินปานกลาง

•โทรศัพท์ + อินเตอร์เนท

•มีท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ มีโอกาสเกิดนำ้ท่วมน้อย

•พื้นที่ที่ต่ำกว่าถนน จะมีราคาต่ำ

•สภาพแวดล้อมเป็นพิษ

•การพัฒนาของพื้นที่นั้น

•ปัจจัยที่มีความสำคัญที่มีผลกระทบต่อราคาที่ดินต่ำกว่าปานกลาง

•รถเมล์ ถ้ามีรถเมล์ผ่านหลาย

สาย ยิ่งทำให้ราคาสูงกว่า

•ที่จอดรถ

•ทางเท้า

•ใกล้สถานศึกษา

ปล/// สิ่งที่ได้เรียนรู้ในรายวิชา ภูมิศาสตร์การเคหะและอสังหาริมทรัพย์

***งานนำเสนอในรายวิชาภูมิศาสตร์การเคหะและอสังหาริมทรัพย์ ของนิสิตชั้นปีที่3

แผนที่เปรียบเทียบจำนวนประชากรในจังหวัดระนอง

ในปี พ.ศ.2553-2557

                          ปล//// เป็นรายงานที่จัดทำขึ้น เพื่อนำเสนอในรายวิชาภูมิศาสตร์การเคหะเเละอสังหาริมทรัพย์

 นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ นักลงทุนซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอสังหาริมทรัพย์โดยได้ผลกำไรสูงสุด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีทั้งแบบผู้ประกอบการและองค์กร บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่สร้างบ้านและที่อยู่อาศัยอื่นๆ ก็นับเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บุคคลทั่วไปซื้อบ้านมือสองหรือคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า ก็ถือเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากสามารถสร้างรายได้และการงอกเงยมูลค่าจากสินทรัพย์ในครอบครองอยู่ได้    อสังหาริมทรัพย์ เป็นสินทรัพย์มีมูลค่าและราคาแพง การจะเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพต้องศึกษาปัจจัยต่างๆ 4 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.  เรียนรู้กฎหมายจำเป็น (Legal Feasibility Study) 

2.   ความเป็นไปได้ด้านกายภาพและทำเลที่ตั้ง (Physical Feasibility Study) 

 3.  ความเป็นไปได้ทางการตลาด (Marketing Feasibility Study)   

4.  สภาวะและความคุ้มค่าทางการเงิน (Financial Feasibility Study)    

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก: http://terrabkk.com/?p=6069


อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com - http://terrabkk.com/?p=6069

การเพิ่มขึ้นของประชากรเมืองปี2050มีความสำคัญต่อที่อยู่อาศัย..............???????

      

       มีการคาดการณ์ว่าในปี2050จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ66ของประชากรทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีการเพิ่มขึ้นของประชากรเพียงร้อยละ54เท่านั้น  เมื่อมีประชากรเพิ่มมากขึ้นยิ่งจะมีความสำคัญต่อที่อยู่อาศัย เพราะการที่มีประชากรเพิ่มมากขึ้นนั้นย่อมมีทั้งข้อดีข้อเสียให้กับพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่

      เมื่อมีประชากรเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ยิ่งจะมีการพัฒนาเมืองยิ่งขึ้น การพัฒนาเมืองที่มากยิ่งขึ้นจะส่งผลในด้านดี เช่น การทำธุรกิจค้าขายจะสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการที่มีประชากรอาศัยอยู่กันหนาแน่นยิ่งจะมีต้นทุนในการขนส่งสินค้าต่ำ และนอกจากนี้ยังส่งผลให้มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดการพัฒนาเมืองมากขึ้นก็อาจจะเกิดการย้ายถิ่นฐานเพิ่มมากขึ้นอันจะส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่างๆในสังคม เช่นปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและรายได้ ปัญหาความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม

แหล่งที่มาของภาพ: http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2012/06/1africa-05-06.1147392480.cape_town_at_night.jpg

Urbanization กระบวการกลายเป็นเมือง

 กระบวนการการกลายเป็นเมืองตามความเข้าใจจากที่ได้เรียนรู้มา คือ การที่ชุมชนเล็กๆพัฒนากลายเป็นเมือง มีประชากรอพยพเข้าไปตั้งถิ่นบาน มีการพัฒนาที่เพิ่มมากขึ้น เเละมีการขยายทางเศรษฐกิจ มีสาธารณูปโภคที่ใช้เป็นประโยชน์ต่อเมืองที่จะเกิดขึ้น มีเส้นทางการคมนาคมที่สะดวก

         

   จากวีดีโอจะเห็นถึงความเเตกต่างของกระบวนการกลายเป็นเมืองของประเทศอินเดีย ในปี2003-2013 เราจะเห็นถึงความเเตกต่างได้อย่างชัดเจนว่าในระยะเวลา10พื้นที่นั้นได้มีการพัฒนาไปเรื่อยๆจนกลายเป็นเมือง

ขอบคุณ วีดีโอจาก: https://www.youtube.com/watch?v=70Rv-Gmzeuk